ทริคเด็ดที่ต้องบอกต่อ ขับรถลุยน้ำท่วมอย่างไร ให้รถคุณปลอดภัย

เริ่มเข้าสู่หน้าฝนอย่างเป็นทางการแล้วนะจ๊ะ โดยเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล ถ้าวันไหนที่ฝนตกหนัก ก็จะส่งผลให้เกิดน้ำท่วมสูงหรือน้ำท่วมขัง ซึ่งแน่นอนว่าจะเป็นอุปสรรคใหญ่ ให้กับคนที่ใช้รถบนท้องถนน” ยากเหลือเกินที่เราจะหลีกเลี่ยงได้ เพราะในตอนขับหรือหลังขับรถลุยน้ำท่วมแล้ว สามารถสร้างความเสียหายให้กับรถของคุณได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าน้ำเข้าห้องเครื่องหรือห้องโดยสารแล้วละก็ ไม่แคล้วต้องเสียเงินซ่อมรถสุดที่รักของคุณกันเป็นเรื่องใหญ่แน่นอน วันนี้แอดจะมาแนะนำทริคเด็ด จะต้องทำอย่างไร เพื่อให้รถของคุณขับผ่านน้ำท่วมได้โดยที่ไม่มีความเสียหายตามมา

สำหรับระดับความสูงของน้ำท่วม ที่สามารถขับขี่และปลอดภัยอย่างแน่นอนก็คือ น้ำท่วมยังไม่ถึงใต้ท้องรถ หรือ ยังไม่ถึงขอบประตูรถ โดยข้อควรปฏิบัติให้รถลุยน้ำ ขับไปได้ มีดังนี้

ถ้าเราประเมินสถานการณ์ดูแล้ว เห็นว่าน้ำท่วมยังไม่ถึงใต้ท้องรถ หรือ ยังไม่ถึงขอบประตูรถ เราสามารถขับต่อไปได้ แต่มีข้อปฎิบัติดังนี้

“ปิดแอร์ อย่าเปิดทิ้งไว้”

ถ้าเราเปิดแอร์ทิ้งเอาไว้ แน่นอนว่าจะทำให้พัดลมระบายความร้อนของหม้อน้ำทำงาน ซึ่งถ้าหากน้ำท่วมถึงพัดลมก็จะทำให้พัดลมตีน้ำกระจายไปทั่วห้องเครื่องได้ จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้รถยนต์ดับ หรือถ้าเลวร้ายกว่านั้นอาจทำให้เกิดไฟฟ้าช็อตได้ ดังนั้นเมื่อมีความจำเป็นต้องขับรถในขณะน้ำท่วมก็ควรปิดแอร์ทุกครั้ง เพื่อป้องกันการเกิดปัญหาในภายหลัง

“เปลี่ยนให้ไว แล้วใช้เกียร์ต่ำ”

การขับรถด้วยการใช้เกียร์ต่ำ เป็นสภาวะที่จะทำให้เครื่องยนต์ของคุณดับได้ยากที่สุด เนื่องจากใช้รอบเครื่องยนต์ 1,500-2,000 รอบต่อนาทีเท่านั้น โดยสำหรับรถธรรมดาก็จะหมายถึงการใช้เกียร์ 1 หรือ 2 เท่านั้น ส่วนรถเกียร์ออโต้ก็คือการขับด้วยเกียร์ L นั่นเอง

“ขับอย่าเร็วไป ให้รักษาความเร็วคงที่”

เมื่อเราใช้เกียร์ต่ำแล้วก็ควรรักษาความเร็วให้สม่ำเสมอไว้ด้วย ไม่เร่งเครื่องหรือเปลี่ยนความเร็วกะทันหัน เนื่องจากจะทำให้เกิดกระแสน้ำวิ่งไปกระทบ แล้วเกิดการตีกลับของกระแสน้ำเข้าสู่รถได้

“ถ้าเครื่องดับ ท่องไว้ ห้ามสตาร์ทเครื่องใหม่เด็ดขาด”

กรณีเลวร้ายที่สุดก็คือ เมื่อตัดสินใจขับรถตอนน้ำท่วมไปแล้ว หากเกิดรถดับกลางทาง สิ่งที่คุณควรทำอันดับแรกนั่นก็คือ การเข็นรถเข้าข้างทาง โดยพยายามหาพื้นที่สูงเข้าไว้ เพื่อลดความเสี่ยงไม่ให้คลื่นน้ำที่เกิดจากรถยนต์คันอื่นไหลเข้าสู่รถของคุณ โดยคุณต้องไม่พยายามสตาร์ทรถใหม่เด็ดขาด เนื่องจากเสี่ยงที่จะทำให้น้ำไหลเข้าสู่เครื่องยนต์และทำให้เกิดความเสียหายหนักกว่าเดิม

     หลังจากที่เพิ่งขับพ้นช่วงถนนที่น้ำท่วมสูง ให้ขับต่อไปโดยใช้ความเร็วต่ำ และให้ทำการไล่น้ำออกจากคาลิเปอร์-ผ้าเบรก โดยการเหยียบเบรกเบา ๆ ย้ำ ๆ ไปเรื่อย ๆ ตลอดระยะเวลาที่ขับด้วยความเร็วต่ำอีกสักระยะ ซึ่งจะช่วยไล่น้ำและความชื้นจากเครื่องยนต์ได้   เราไม่หยุดพักรถและดับเครื่องโดยทันที หลังจากที่เพิ่งลุยน้ำท่วมมาเสร็จ เนื่องจากมีความเป็นไปได้ที่จะทำให้น้ำที่ค้างอยู่ที่ท่อไอเสียย้อนกลับเข้าไปได้ รวมทั้งความชื้นที่ยังมีอยู่อาจทำให้เครื่องยนต์เสียหายได้ด้วย ที่สำคัญอีกอย่างก็อย่าลืมเช็ครถหลังลุยน้ำท่วมด้วย ว่ามีอะไรผิดปกติหรือเปล่า หากสนใจสอบถามเรื่องประกันภัยทาง ควิกอินชัวรันส์โบรคกเกอร์ มีบริการประกันรถยนต์ (ภาคสมัครใจ) ซึ่งสามารถตอบโจทย์ทุกความต้องการของลูกค้าได้ ถ้าสนใจ สามารถสอบถามข้อมูลได้ที่หมายเลข 066-115-3592 ได้เลยนะคะ สุดท้ายนี้ขอให้ทุกคนขับขี่อย่างปลอดภัยและรักษากฎจราจรนะคะ